Entourage effect ความเพลิดเพลินที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานของสารประกอบหลากหลายชนิดที่อยู่ในกัญชา
“ไตรโคมแน่นๆ”, “คริสตัลอย่างสวย”, “ฟรอสตี้!” (Frosty!), “สติกกี้” (Sticky) และอีกหลายๆคำเมื่อเหล่าสมาชิกสายเขียวพูดถึงเมื่อได้สัมผัสกับสมุนไพรทางเลือกคุณภาพยอดเยี่ยม เพราะสิ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพของกัญชานั้นส่วนใหญ่จะดูจากตุ่มใสๆรูปร่างคล้ายกับเห็ดอัดแน่นอยู่บนช่อดอกของกัญชา หรือ ที่เรียกกันว่า ไตรโคม
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักไตรโคมแล้วหละ เพราะยิ่งช่อดอกยิ่งปกคลุมไปด้วยไตรโคมมากเท่าไหร่ ปริมาณสารแคนนาบินอยด์ กลิ่น และ รสชาติ จะยิ่งชัดขึ้นมากเท่านั้น นอกจากสารแคนนาบินอยด์ที่ทำให้เราได้รับรู้ถึงเอฟเฟกต์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว กลิ่นและรสชาติยังมีฤทธิ์ในการช่วยเสริมให้เกิดเอฟเฟกต์ที่ดีขึ้นได้เช่นกัน
ความหอมฟุ้งเมื่อเปิดโถของกัญชาที่เราได้กลิ่นนั้น คือ เทอร์ปีน (Terpene) ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นออกเปรี้ยวๆ คล้ายมะนาว หรือ กลิ่นฉุนคล้ายเครื่องเทศสมุนไพร ต่างมีส่วนเปลี่ยนหรือเพิ่มฤทธิ์ของสารแคนนาบินอยด์ที่อยู่ในกัญชาทั้งสิ้น ผลการทำงานร่วมกันของสารสองชนิดนี้จึงถูกเรียกว่า เอ็นทูราจเอฟเฟกต์ (Entourage effect)
เอ็นทูราจเอฟเฟกต์ คือ ผลของการที่สารประกอบหลากหลายชนิดในกัญชา ที่ไม่ใช่มีแค่สารเด่นๆที่เราคุ้นเคย เช่น THC และ CBD เอฟเฟกต์นี้ยังมีเทอร์ปีนเข้ามาช่วยเสริมฤทธิ์ให้ประสิทธิภาพของกัญชา ออกฤทธิ์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ บางทีเรายังสามารถคาดการณ์ถึงเอฟเฟกต์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราสูบสมุนไพรทางเลือกพันธุ์นั้นๆด้วย
นอกจากนี้เทอร์ปีนยังมีส่วนช่วยสนับสนุนงานศึกษาวิจัยกัญชาทางการแพทย์เมื่อนำกัญชาสายพันธุ์ต่างๆมาใช้รักษาผู้ป่วยจากโรคที่เหมาะสมกับสายพันธุ์นนั้นๆได้สำเร็จอีกด้วย
กัญชาแต่ละพันธุ์ย่อมมีเทอร์ปีนที่แตกต่างกัน เทอร์ปีนนั้นมีมากมายหลายพันชนิด แต่หากพูดถึงเทอร์ปีนที่มีความน่าสนใจมากที่สุดและเรามักจะพบเจอตามท้องตลาดกัน คือ B-Caryophyllene, Myrcene, Limonene
เมอร์ซีน (Myrcene) - เป็นเทอร์ปีนที่มักพบเจออยู่ในกัญชาแทบทุกสายพันธุ์ เมอร์ซีนนั้นจะให้มีกลิ่นคล้ายดิน (Earthy) หรือ โคลน (Musky) นอกจากในกัญชาแล้ว เรายังสามารถพบเจอเทอร์ปีนชนิดนี้ได้ในมะม่วง, ตะไคร้ และ กานพลู เช่นกัน เมอร์ซีนมีคุณสมบัติที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและกล่อมประสาท แถมยังช่วยบรรเทาการอักเสบและความเจ็บปวดเรื้อรังของกล้ามเนื้อ มักเป็นเทอร์ปีนที่ถูกนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง
สายพันธุ์ที่มีเมอร์ซีนสูง คือ Granddaddy Purple และ OG Kush ซึ่งทั้งสองพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์อินดิก้าเด่น (Indica dominant) จึงทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและหลับสบายหลังจากใช้ จึงเหมาะกับช่วงเย็นหลังเลิกงาน และ ก่อนนอน
ลีโมนีน (Limonene) - เทอร์ปีนที่มักจะเจอบ่อยรองจากเมอร์ซีน ลีโมนีนให้กลิ่นคล้ายผลไม้ผิวเหลืองตระกูลมะนาว เช่น ซิตรัส (Citrus) เลมอน (Lemon) และ ส้มเขียวหวาน (Tangerine orange) กลิ่นสดชื่นนี้ แน่นอนว่าช่วยทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่า และ บรรเทาความวิตกกังวลอย่างแน่นอน ในความสดชื่นนี้ ลิโมนีนยังมีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียและเชื้อรา อีกทั้งยังมีการศึกษาวิจัยว่าช่วยลดขนาดของเนื้องอกบางชนิด และ ยังช่วยให้ผู้ป่วยจากภาวะซึมเศร้าให้มีการอาการดีขึ้นอีกด้วย
Strawberry Banana และ Wedding Cake เป็นสายพันธุ์ไฮบริดที่มีความเด่นของอินดิก้า เป็นสายพันธุ์ที่มีเทอร์ปีนลีโมนีน จึงทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายแต่ไม่ถึงกับง่วงนอน เหมาะใช้เพื่อการพักผ่อนยามบ่ายของวัน
แคริโอฟิลลีน (Caryophyllene) - เทอร์ปีนชนิดนี้ให้กลิ่นฉุนคล้ายเครื่องเทศ เช่น พริกไทยดำ, อบเชย, โรสแมรี่, ออริกาโน่ และเครื่องเทศอีกหลากหลายชนิด แคริโอฟิลลีนนี้จะทำงานร่วมกับต่อม CB2 และเป็นเทอร์ปีนชนิดเดียวที่ทำงานร่วมกับระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ในร่างกายของเรา เนื่องจากเทอร์ปีนชนิดนี้มีคุณสมบัติในการกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ต้านและบรรเทาการอักเสบ จึงมักในไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณจากกัญชา นอกจากนี้ยังสามารถใช้บำบัดผู้ป่วยจากอาการติดสุราเรื้อรังได้ด้วย
เมื่อเราใช้สมุนไพรทางเลือกอย่างเช่น Candy Land หรือ Sour Diesel เราจะได้รับประโยชน์จากเทอร์ปีนชนิดนี้ แต่เนื่องจากทั้งสองสายพันธุ์ที่เรายกตัวอย่างให้เป็น ซาติว่า ทั้งสองสายพันธุ์ ผู้ใช้จะได้รับเอฟเฟกต์ของความกระปรี้กระเปร่าแทนที่จะง่วงซึม
เทอร์ปีนจากต้นกัญชา คือสารประกอบที่มีกลิ่นหอม ซึ่งทำให้กัญชาแต่ละสายพันธุ์มีกลิ่นและรสชาติแต่ต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์ เทอร์ปีนในดอกกัญชาจะทำงานร่วมกับสารแคนนาบินอยด์อื่นๆและส่งผลให้เอฟเฟกต์จากการใช้กัญชามีศักยภาพที่เพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่แยกความเป็นซาติว่า หรือ อินดิก้าเท่านั้น เทอร์ปีนยังช่วยส่งผลดีต่อร่างกายและนักวิจัยก็ยังคงศึกษาค้นคว้าและวิจัยเพื่อให้เป็นผลประโยชน์ทางการแพทย์ต่อไป