Edible and Halloween เมื่อเทศกาลหว่านลูกอมและของหวานในแบบ Trick or Treat รับวันฮาโลวีนมาถึง!
Tricks or treats? ประโยคที่หลายๆคนคงจะคุ้นหูเป็นอย่างดีเมื่อพูดถึงเทศกาลสิ้นเดือนตุลาคม นั่นก็คือเทศกาลฮาโลวีน (Halloween) ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างเฝ้ารอที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ อย่างใจจดใจจ่อไม่แพ้กัน
วัฒนธรรมของเทศกาลฮาโลวีน (Halloween) นี้ นอกจากผู้คนจะแต่งตัวเป็นผีนานาชาติ หรือเลียนแบบคาแรกเตอร์จากภาพยนตร์และการ์ตูน ที่เป็นที่โด่งดังในขณะนั้นแล้ว หลากหลายประเทศมีประเพณีการฉลองที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังมีประเพณีที่สามารถเห็นกันได้เกือบทุกประเทศก็คือ การที่เด็กๆตัวเล็กตัวน้อยแต่งตัวน่ารักน่าเอ็นดูไปเคาะประตูตามบ้านต่างๆ และ กล่าวคำว่า “Tricks or Treats?” ตามกาลละเล่นที่สืบต่อกันมาเพื่อแลกกับขนม ลูกอมในคืนนี้อีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่าขนมที่ได้รับมาในตะกร้าที่เด็กๆถือไปขอนั้น จะมีขนมที่มีส่วนผสมของกัญชารวมอยู่ด้วยรึเปล่า
ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และ แคนนาดา สำหรับเอดิเบิล นอกจากจะมีกฎหมายบังคับว่าต้องระบุข้อบ่งชี้โดยละเอียดและ ปริมาณของสารTHCตามข้อกำหนดบนฉลากที่ 10mg THC แล้ว รูปลักษณ์ของขนม สีของบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนถึงชื่อ จะต้องไม่เหมือนขนมปกติทั่วไป เช่น กัมมี่(gummies)ห้ามเป็นรูปหมี ห้ามใช้คำว่า Sour patch บนหีบห่อบรรจุภัณฑ์ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดของผู้บริโภค เช่นกัน เนื่องจากเอดิเบิล (edible) ที่ได้รับการแปรรูปมาอย่างดี จะไม่มีกลิ่นเขียวของกัญชาให้เราได้กลิ่น ซึ่งทำให้ง่ายต่อการบริโภคไม่ต่างจากขนมปกติที่ไม่มีส่วนผสมของกัญชา
ถึงแม้ว่าedibleในประเทศไทยจะยังไม่ถูกกฎหมาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการหาซื้อจากร้านค้าออนไลน์ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ไม่ต่างจากขนมปกติที่ไม่มีส่วนผสมของกัญชา นอกจากการขาดความรอบคอบที่จะคำนวณปริมาณสารTHCที่ใส่เข้าไปในขนมแล้ว ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ยังไม่มีการระบุว่ามีกัญชาเป็นส่วนผสมในขนมชิ้นนั้นอีกด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดและนำไปมอบให้กับผู้อื่นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจได้
จากบทความ Edible101 หากที่บ้านของเรามีเอดิเบิลอยู่แล้ว เราควรที่จะเก็บใส่กล่องหรือบรรจุภัณฑ์ที่ทำให้เด็กไม่สามารถเปิดได้ หรือเก็บซ่อนให้พ้นมือเด็กก็จะง่ายกว่า นั่นคือกฏเหล็ก! ไม่เช่นนั้น เอดิเบิลก็อาจไม่ต่างอะไรจากยาพิษที่อยู่ในบ้านอีกขนานหนึ่ง
นอกจากนี้หากบ้านใดมีเยาวชนที่เราสามารถสนทนาเกี่ยวกับเอดิเบิลได้แล้ว ผู้ปกครองควรเปิดใจคุยกับน้องๆถึงผลกระทบจากการใช้กัญชาไม่ว่าจะจากการสูบ หรือ การทานเอดิเบิลต่อการพัฒนาทางสมองของน้องๆอย่างตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่าทำไมถึงยังไม่ควรบริโภคหากมีอายุไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กฏหมายกำหนด (20ปี บริบูรณ์)
และเมื่อวันเทศกาลฮาโลวีน(Halloween)มาถึง หลังจากที่เด็กๆได้รับขนมมาเรียบร้อยแล้ว ผู้ปกครองควรที่จะตรวจเช็คขนมที่ได้รับมาก่อนที่จะอนุญาตให้เด็กๆของเราทาน หากมีขนมที่ได้รับมาไม่อยู่ในหีบห่อที่ผลิตจากโรงงานอาหาร หรือ ไม่มีฉลากระบุว่าเป็นอะไร ควรที่จะแยกไว้และทิ้งไปไม่ควรเก็บไว้ลองทานเองเพราะนอกจากขนมชิ้นนั้นอาจมีกัญชาเป็นส่วนผสมแล้ว เรายังไม่รู้ปริมาณของสารTHCที่ผสมอยู่ในขนมชิ้นนั้นอีกด้วย
แล้วถ้ามีใครได้ทานเอดิเบิลเข้าไปหล่ะ จะทำอย่างไรดี?
คำแนะนำอย่างแรกจากเรา คือ ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ก่อนควรที่จะตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนกตาม เพื่อน หรือ เด็กๆที่ทานเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ควรที่จะพาไปนั่งหรือนอนบนโซฟาที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายในที่ๆอากาศถ่ายเทสะดวก และเตรียมน้ำและของหวานไว้ให้เมื่อพวกเขาเหล่านั้นต้องการ
ต่อมาหากเราทราบถึงปริมาณของสารTHC และ ระยะเวลาที่ทานเข้าไป เราจะสามารถคาดคะเนคร่าวๆได้ และ เตรียมวิธีรับมือกับอาการที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ หรือแม้กระทั่งตัดสินใจว่าควรส่งผู้ที่ทานเอดิเบิลไปโรงพยาบาลหรือไม่ อย่าลืมว่า สำหรับเอดิเบิลนั้นสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างยาวนานถึง 12 ชั่วโมงได้ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล และ ชั่วโมงที่ 4 หลังจากที่รู้สึกถึงเอฟเฟกซ์ คือ ชั่วโมงที่จะได้รับเอฟเฟกซ์ที่เต็มที่ที่สุด ทั้งนี้เราควรเก็บบรรจุภัณฑ์ของขนมชิ้นนี้ไว้ก่อน เผื่อไว้ว่าต้องไปโรงพยาบาล
เมื่อประเมินอาการเบื้องต้นว่า ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำต่อว่า ถ้าผู้ปกครอง รู้สึกไม่มั่นใจในอาการของเด็กๆที่ทานเอดิเบิลเข้าไป สามารถติดต่อคลินิคกัญชาทางการแพทย์เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำการช่วยเหลือที่ถูกต้องต่อไป
เทศกาลนี้เราทุกคนรอที่จะฉลองอย่างเต็มที่มากว่า 2 ปี ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยต่อเอดิเบิลที่อยู่ในท้องตลาด ขอให้ทุกคนมีฮาโลวีนที่ดีและปลอดภัย Happy Halloween!