Cannabis 101: Terpene กับการบรรเทาอาการต่างๆได้ด้วยตนเองเมื่อใช้ร่วมกับสมุนไพรทางเลือก : Part 1
เทอร์ปีนส์คือสารแคนนาบินอยด์คล้ายน้ำมันหอมระเหยจากกัญชาเช่นเดียวกับ THC และ CBD เทอร์ปีนที่ถูกค้นพบในกัญชานั้นมีมากมายกว่า 200 ชนิด และ เป็นไอเท็มไม่ลับแต่คนไม่ค่อยรู้ที่ฝังตัวอยู่ในต่อมไตรโคมบนต้นกัญชา กัญชาต่างสายพันธุ์จะมีเทอร์ปีนที่แตกต่างกันออกไป กัญชาพันธุ์ Wedding Cake มีกลิ่นที่หอมหวานคล้ายคลึงกับขนมเค้ก หรือ กัญชาพันธุ์ Skunk ก็จะมีกลิ่นฉุนคล้ายกับสัตว์ชนิดหนึ่งนั่นเอง เทอร์ปีนยังทำให้เรารู้สึกถึงรสชาติที่แตกต่างกันของกัญชาแต่ละพันธุ์ เช่น เบอรี่, มะนาว, สมุนไพร และ เครื่องเทศ อีกด้วย และใดๆนอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น เทอร์ปีนยังมีความสำคัญในการช่วยบำบัดรักษาโรคต่างๆ เช่น รักษาอาการปวด ไม่น้อยหน้าสารแคนนาบินอยด์อื่นๆ เช่นกัน
“ความสวยไม่จีรัง แต่ปวดหลังคือถาวร” “ความพยายามอยู่ที่ไหน ปวดคอ บ่า ไหล่ อยู่ที่นั่น” อาการเหล่านี้พบได้มากท่ามกลางชาวกรุงอย่างเรา จนถึงขั้น แต่งคำคมขึ้นมาพูดเล่นกันสนุกปาก 555 แต่ในเลข 5 นั้นมีน้ำตาซ่อนอยู่นะจ๊ะ อาการปวดเหล่านี้จะเกิดขึ้นมากน้อยในแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน และยังสามารถกลายเป็นอาการปวดเรื้อรังหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี อาการปวดเหล่านี้อาจไม่ใช่อาการที่รุนแรงแต่เป็นเพียงแค่อาการที่มากวนใจระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน หลายคนอาจจะเลือกใช้สมุนไพรทางเลือกเพื่อมาบรรเทาอาการต่างๆเหล่านี้ แต่จะดีกว่ามั้ยหากเรารู้จักว่าเทอร์ปีนส์ชนิดใดที่อยู่ในสมุนไพรทางเลือกมีฤทธิ์ช่วยเสริมให้ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ดีขึ้น
เทอร์ปีนส์ที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรัง ได้แก่ B-caryophyllene, Myrcene, Linalool, Limonene และ Pinene ผลงานวิจัยจากหลากหลายประเทศ รายงานว่า เทอร์ปีนเหล่านี้มีคุณสมบัติสำคัญหลักที่ทำหน้าที่คล้ายกับยาบรรเทาอาการปวด และ ยังได้รับการวิจัยว่าช่วยรักษาอาการ ปวดหัว ปวดท้อง และอาการเกร็งตัวของคล้ายเนื้อได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากคุณสมบัติของการรักษาอาการปวดแล้ว เมื่อเทอร์ปีนส์เหล่านี้ทำงานร่วมกันยังมีฤทธิ์ต้าน และ บรรเทาการอักเสบอีกด้วย
เมื่อสายพันธุ์กัญชาทั้งซาติวา และ อินดิก้า ถูกเลือกมาเป็นตัวช่วยในการบรรเทาความปวดแทนการทานยาแล้ว ในบทความนี้เรามีไกด์ไลน์ของการเลือกสายพันธุ์มาฝากกัน
มาเริ่มกันที่ซาติว่าที่ควรใช้ในตอนกลางวัน เพราะ จะทำให้เรารู้สึกตื่นตัวมากกว่าอินดิก้า แต่กลับให้ผลลัพธ์ของ
การบรรเทาอาการปวดได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ได้แก่
ACDC - สายพันธุ์ที่ถูกเลือกใช้ในทางการแพทย์อยู่บ่อยครั้ง ACDCเป็นสายพันธุ์ไฮบริดที่มีความโดดเด่นของซาติว่าและมีCBDในปริมาณที่สูง ในขณะACDCมีข้อจำกัดของการใช้ในเชิงสันทนาการเนื่องจากมีปริมาณสาร THC ที่ค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากมีปริมาณสาร CBD ที่สูงเช่นกัน ประกอบกับการที่มีเทอร์ปีนหลักถึง 3 ชนิด คือ Myrcene, Pinene และ Caryophyllene อยู่ในตัวของตัวเอง จึงทำให้ACDC มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดเรื้อรังได้อย่างมหาศาล
AK-47 - สายพันธุ์ไฮบริดที่มีความโดดเด่นของซาติว่า จาก Serious Seeds เป็นสายพันธุ์พื้นถิ่นในหลากหลายประเทศ เช่น โคลัมเบีย, เม็กซิโก, อัฟกานิสถาน และ ประเทศไทย ด้วยกลิ่นและรสชาติจากเทอร์ปีนของสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น Myrcene, Pinene และ Caryophyllene จึงทำให้ช่วยต่อสู้กับอาการปวดต่างๆของร่างกาย และ ยังช่วยในการผ่อนคลาย เคลียความคิดฟุ้งซ่านต่างๆในหัวของเราอีกด้วย
CHARLOTTE’S WEB - อีกสายพันธุ์ที่มีสาร CBD สูง และ สาร THC ไม่มาก จึงเป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของสารแคนนาบินอยด์ โดยที่จะให้ความรู้สึกเมาที่ค่อนข้างเบาบาง Charlotte’s Web มีเทอร์ปีนหลักที่ช่วยในการผ่อนคลายคล้ายกับสองพันธุ์ที่กล่าวมาข้างต้น และ สายพันธุ์นี้ยังถูกใช้ในการผลิตน้ำมันCBDและTincture อย่างแพร่หลายในท้องตลาดเช่นกัน
เมื่อเราพอจะมีไอเดียจากการเลือกสายพันธุ์ซาติว่าแล้ว ต่อไปนี้เราจะแนะนำสายพันธุ์อินดิก้าที่จะเป็นตัวจบความเหนื่อยล้าที่เราเผชิญกันมาทั้งวัน และ ส่งคุณเข้านอนกัน
ICE CREAM CAKE - หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ของความสงบจากสมุนไพรทางเลือก Ice cream cake เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเพราะนอกจากจะมีปริมาณสาร THC ที่สูงแล้ว ดอกของสายพันธุ์นี้ยังมีกลิ่นคล้ายขนมหวานอีกด้วย เพราะสายพันธุ์นี้มี Limonene, Caryophyllene และ Myrcene เป็นเทอร์ปีนหลักอยู่ในสายพันธุ์
GRANDDADDY PURPLE - ช่อดอกของสายพันธุ์นี้มีความโดดเด่นด้วยสีของมันคือ สีม่วง และ สายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในท้องตลาด เนื่องจากสายพันธุ์นี้มีเทอร์ปีนหลักที่เข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น Myrcene, Pinene และ Caryophyllene จึงช่วยให้หลายต่อหลายคนหลุดพ้นจากความเจ็บปวดเรื้อรัง มากว่า 20 ปี! จึงเป็นพันธุ์ที่เรียกว่าเป็นยาวิเศษเลยก็ว่าได้
DO-SI-DOS - สายพันธุ์นี้ถูกอัดแน่นไปด้วยปริมาณของสาร THC และ เทอร์ปีน Limonene, Caryophyllene และ Mrycene จึงเป็นอีกสายพันธุ์ที่ได้รับการแนะนำเพื่อใช้บรรเทาอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และ บรรเทาความปวดเมื่อย
ทั้งนี้ ในบทความนี้เป็นเพียงการแนะนำให้ผู้อ่านทุกคนมีไกด์ไลน์ในการเลือกสมุนไพรทางเลือกมาใช้ให้ตรงตามความต้องการของตนเองเท่านั้น หากใครมีอาการที่ค่อยข้างร้ายแรงควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป